bannera1
แจกสูตร “ขนมสัมปันนี” เอาทำขายเป็นของขวัญวันปีใหม่

แจกสูตร “ขนมสัมปันนี” เอาทำขายเป็นของขวัญวันปีใหม่

แจกสูตร “ขนมสัมปันนี” เอาทำขายเป็นของขวัญวันปีใหม่





Advertisements

     “ขนมสัมปันนี” ขนมชื่อไท้ไทย ฟังแล้วไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไร อีกทั้งยังเป็นขนมของไทยโบราณที่หาซื้อได้ค่อนข้างยาก จึงน่าจะเหมาะที่จะทำขาย หรือ ทำตามออร์เดอร์ ขายเป็นของขัวญวันปีใหม่ ก็ดีมากๆ

     อาจนำไปจัดเป็นเซ็ตเข้าชุดกับ ขนมหน้านวล , ขนมโสมนัส , ขนมเห็ดโคน  ยิ่งพิเศษและมีคุณค่ามากๆ แก่ผู้รับ  ว่าแล้วเราไปดูสูตรและวิธีทำจาก อ.สุภาพร กันเลยครับ

ขนมไทยๆ ใช้เป็นขนมปีใหม่ เพื่ออนุรักษ์ขนมไทยไว้ค่ะ
– สัมปันนี
– หน้านวล
– โสมนัส
– เห็ดโคน

1. ขนมสัมปันนี

    ขนมไทยโบราณ ที่หากินยาก เลยต้องทำเอง ขอบคุณสูตรจาก คุณ Sailom Winwin เพื่อนสมาชิกชมรมอาหารไทยแท้แม่ให้มา เราเอามาปรับสูตรเล็กน้อยคะ

ส่วนผสม

1.แป้งมันสำปะหลัง 350 กรัม
2.กะทิ 350ซีซี
3.น้ำตาล 200 กรัม
4.ใบเตย 2 ใบ
5.เทียนอบขนม

วิธีทำ

1.นำแป้งมันไปคั่วในกะทะ ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน คั่วประมาณ 30นาที พอแป้งสุก นำไปอบเทียน 3ชม.(จุดเทียนอบใหม่ทุก 1ชม.) หรืออบไว้ 1 คืน

2.ผสมน้ำตาลกับกะทิให้เข้ากันดี นำขึ้นตั้งเตา ใช้ไฟกลางๆ ใส่ใบเตยลงไปด้วย กวนให้ส่วนผสมเริ่มเหนียว ยกลงจากเตา ค่อยๆผสมแป้งมันที่คั่วไว้ลงไป(แบ่งแป้งที่คั่วแล้ว ไว้ทาพิมพ์ด้วย 1/2ชต.) คนให้เข้ากันดี และนวดให้แป้งเนียนไม่ติดมือ นำไปใส่พิมพ์ แล้วเคาะออกจากพิมพ์ ผึ่งให้แห้ง ตัวขนมจะแข็งขึ้น เก็บใส่ภาชนะมีฝาปิดคะ





Advertisements

2.ขนมหน้านวล

เรียกอีกชื่อคือ “ขนมทองโปร่ง” หนึ่งในขนมไทย ที่หารับประทานยากค่ะ รสชาติขนม หวาน กรอบ เหมือนขนมไข่กรอบ หรือคุ้กกี้เลดี้ฟิงเกอร์ของฝรั่ง ถ้าดูเผินๆจะเหมือนขนมผิง แต่รสชาติต่างกันค่ะ ลักษณะพิเศษของขนมคือ จะมีโพรงอยู่ตรงกลาง และผิวหน้าขนมจะเรียบนวล สมชื่อ สามารถเก็บไว้ได้นาน

ส่วนผสม

1.ไข่ไก่ 6 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
2.น้ำตาลทรายบด 3/4 ถ้วย
3.แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
4.น้ำมันมะพร้าว 1 ชต. (ใช้ทาพิมพ์ขนม)
5.เทียนอบขนม
6.อุปกรณ์พิเศษที่ใช้ พิมพ์รูปเรือขนาดกลาง 16 อัน (ถ้าใช้ขนาดเล็กประมาณ 35 อัน)

วิธีทำ

– นำไข่แดงไปตีให้ขึ้นฟู หลังจากนั้นทยอยใส่น้ำตาลบดลงไปตีให้เข้ากัน
– ทยอยใส่แป้งลงไปคนให้เข้ากัน
– นำพิมพ์ขนมทาด้วยน้ำมัน นำไปอบ 10 นาที ใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไป 2/3 ของพิมพ์ นำไปอบไฟ 180 องศา 35 นาที (ถ้าใช้พิมพ์เล็กให้ลดเวลาลง) พักขนมให้คลายความร้อน แคะออกจากพิมพ์ นำไปอบควันเทียน 2 ชม. หรือค้างคืนไว้ 1 คืน แล้วเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิด เพื่อให้คงความกรอบ

3.ขนมโสมนัส

     ในสมัยโบราณ เวลาทำขนมพวกทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง จะใช้เฉพาะไข่แดง จึงมีการดัดแปลงส่วนไข่ขาวที่เหลืออยู่ มาทำเป็นขนมโสมนัส กลิ่นหอม รสชาติกรอบอร่อย

ส่วนผสม

1.ไข่ขาว 1/2ถ้วย 2.มะพร้าวคั่ว 2ถ้วย (ใช้มะพร้าวทึนทึก) 3.น้ำตาลป่น 3/4ถ้วย 4.เกลือป่น 1/4ชช. 5.น้ำมันพืช 1ชต.(ใช้ทาถาด)

วิธีทำ

ตีไข่ขาวให้ตั้งยอด ค่อยๆเติมน้ำตาลป่นและเกลือลงไป ตีส่วนผสมให้ตั้งยอดแข็ง ลักษณะเหมือนครีม ผสมมะพร้าวคั่ว คนให้เข้ากัน ใช้ช้อนกาแฟ ตักเป็นก้อนกลม วางบนถาด โดยทาน้ำมันพืชที่ถาดก่อน แล้วนำเข้าอบไฟ 180องศา 20นาที พักให้คลายความร้อน เก็บใส่ภาชนะมีฝาปิดสนิทได้หลายวัน

*ได้ขนมประมาณ 45ชิ้น คะ

4.ขนมเห็ดโคน

ขนมไทยโบราณที่หายาก รูปทรงน่ารัก…หอม หวาน กรอบ อร่อย ค่ะ
เป็นขนมที่นำไข่ขาว ที่เหลือจากการทำขนมที่ใช้เฉพาะไข่แดงมาทำ สามารถเก็บไว้ได้นานหลายวัน
เมื่อวันก่อน….ทำขนมบุหลันดั้นเมฆ ซึ่งใช้แต่ไข่แดง เราเก็บไข่ขาวไว้ในตู้เย็น วันนี้เลยนำมาทำขนมเห็ดโคนค่ะ
ขนมชนิดนี้ ใช้เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ได้ค่ะ
วิธีทำคล้ายๆขนมโสมนัส แต่ไม่ใส่มะพร้าวคั่ว

ส่วนผสม

1.ไข่ขาว 1/2 ถ้วย
2.น้ำตาลทรายบด 2 ถ้วย
3.แป้งท้าว(บดแล้วนำมาร่อน) 2ช.ต.
4.น้ำมะนาว 1 ช.ต.
5.ผงช็อกโกแลต 1 ช.ต.
6.เทียนอบ
7.อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– ถาดอบขนม
– กระดาษรองถาด (หรือจะใช้น้ำมันพืชทา)
– ถุงบีบขนม (หรือใช้ถุงพลาสติกตัดมุม)

วิธีทำ

– นำไข่ขาวมาตีให้ขึ้นฟู ใส่น้ำมะนาวลงไปตีให้เข้ากัน (เพื่อไม่ให้ไข่ขาวยุบตัว) ทยอยใส่น้ำตาลลงตีให้เข้ากัน จนมีลักษณะตั้งยอด แบ่งส่วนผสมที่ได้เป็น 2 ส่วน
– ส่วนที่ 1 นำมาทำก้านเห็ด ให้นำแป้งท้าวมาคนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถุงแล้วบีบใส่ถาด ให้มีลักษณะเป็นแท่งสูงเหมือนก้านเห็ด
* แบ่งส่วนที่ 1ไว้ 2 ชต. เพื่อใช้เป็นตัวเชื่อมดอกเห็ดกับก้านเห็ด
– ส่วนที่ 2 นำมาบีบให้เป็นรูปดอกเห็ด แล้วโรยผงช็อกโกแลต ทำเป็นสปอร์เห็ด นำไปอบ ไฟ 160 องศา 20 นาที
– นำดอกเห็ด และก้านเห็ดมาประกอบกัน โดยใช้ไม้แหลมเจาะเป็นรูที่ดอกเห็ด แล้วนำก้านเห็ดมาต่อกัน โดยทาด้วยส่วนผสมส่วนที่1 ที่แบ่งไว้ แล้วนำไปอบอีก 7- 10 นาที พักขนมให้คลายความร้อน
– นำขนมไปอบด้วยควันเทียน 2 ชม. หรือค้างคืนไว้ 1 คืน เก็บใส่ภาชนะมีฝาปิด เพื่อให้คงความกรอบ

ขอขอบคุณ ท่านเจ้าของสูตรด้วยนะครับ อาจารย์ Supaporn Kumnodnae เป็นอย่างสูงครับ ไปดูสูตรและวิธีทำกันเลยครับ

copyright

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.