เปิดรหัสลับ จาก… เด็กแคมป์ก่อสร้าง สู่… นักธุรกิจอสังหา หลักล้าน

เปิดรหัสลับ จาก… เด็กแคมป์ก่อสร้าง สู่… นักธุรกิจอสังหา หลักล้าน

     ใครจะไปเชื่อ..  จากเด็กลูกคนงานก่อสร้าง จะพลิกผันชีวิต มาเป็นเจ้าของบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มียอดขายร้อยล้านบาทต่อปี  ชีวิตที่เริ่มต้นจากศูนย์ ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย กว่าจะมีวันนี้  ไปไขความลับและจุดพลิกผันของชีวิต ของชายหนุ่มผู้นี้กันเลย…

 
ภาพในวัยเด็ก

เกิดจากดิน
    “ชีวิตมนุษย์เลือกเกิดไม่ได้  แต่เลือกที่จะทำได้”
    “ เกมส์”เด็กน้อยจาก “แคมป์คนงานก่อสร้าง”
    ในช่วงปิดเทอม ชีวิตในวัยเด็กของ คุณสุวิจักขณ์ ศรีอาริย์ (เกมส์) ที่เกิดมาในครอบครัวฐานะยากจน   พ่อมีอาชีพ รปภ. , ส่วนแม่ก็ทำงานก่อสร้าง ชีวิตในวัยเด็กจึงยากลำบากมาก ต้องอดทนและตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้มากที่สุด จนเรียนจบชั้น ปวส.  และมุ่งหน้าเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพมหานคร

 
เด็กวัดแท้ๆ..

ภาพความลำบากยังติดตา
    ชีวิตในเมืองหลวง เป็นชีวิตที่ต้องอดทนให้มากขึ้น เงินทุกบาทต้องใช้อย่างคุ้มค่า แต่ใช่ว่าประหยัดที่สุดแล้วจะพอใช้  ความกล้ำกลืนฝืนทนจึงมาเยือน เมื่อวันที่เหลือในกระเป๋าเพียง 5 บาท กับการที่ต้องอยู่ไป 4 – 5 วัน ให้ได้  มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
    จำต้องไปขอเงินจาก “พ่อ” ที่ก็ลำบากไม่แพ้กัน  “ภาพที่พ่อหยิบเงิน” จากกระเป๋าใบขาดๆ  ดึงเงินจากช่องเก็บเงินมาให้เกือบหมด มันความรู้สึกที่กระแทกอย่างจังเข้าไปในหัวใจ ความจน ,ความยากลำบาก มันชั่งทรมานเหลือเกิน…
    “ความคิดในขณะนั้น… เราต้องหลุดพ้นจากความจนไปให้ได้”

 
วัยรุ่น

ทำงานเดินแบบ เพื่อหารายได้ ระหว่างเรียน
    “คุณสุวิจักขณ์ ศรีอาริย์” ได้ไปทำงานเดินแบบ จากการที่เคยมีโมเดลลิ่ง มาติดต่อเมื่อครั้งตอนไปประกวดเดินแบบที่จังหวัดนครสวรรค์  เพื่อหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนให้จบชั้นปริญญาตรี และเป็นการลดภาระของแม่ไปด้วย  จนในที่สุดก็จบปริญญาตรี ( คณะวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม )ได้ตามที่ตั้งใจ

 งานแรกหลังจบปริญญาตรี
    ได้มาทำงานอยู่ในบริษัททัวร์ ซึ่งรายได้ก็เริ่มแบบพนังงานประจำทั่วไป แต่คิดว่าต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน หากมีประสบการณ์มากขึ้น ตำแหน่งงานก็จะดีขึ้นตามลำดับ  ในช่วงนี้เป็นช่วงได้มีโอกาสพูดคุยกับ “พี่เจ้าของบริษัท” เขาสอนเรา บอกเราอยู่ตลอด  ถ้ายากรวย “ต้องหมั่นหาความรู้ ดูจากคนที่ประสบความสำเร็จ” ลองไปหาหนังสือ “พ่อสอนให้ลูกรวย” มาอ่านดู

    ซึ่งคุณสุวิจักขณ์ ก็ทำตามอ่านอย่างละเอียด อ่านคืนเดียวจบ อ่านให้เข้าใจ จนตกผลึกความคิด นำไปสู่การลงมือทำ เริ่มจากการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า รู้ว่าอะไรควรจ่าย และอะไรไม่ควรจ่าย เพื่อเก็บสะสมเงินทุนไว้ให้มาก  หากโอกาสมาถึง จะได้นำมาใช้ได้อย่างทันทวงที

 
ลงลึกรายละเอียด..

เก็บเกี่ยวความรู้
    แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องจ่ายเงินไปประประจำ คือ หนังสือ คุณสุวิจักขณ์จะซื้อหนังสือมาอ่านอยู่เป็นประจำ เพราะถือว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง  ยิ่งมีความรู้มาก การทำงานย่อมได้เปรียบ

 กลับบ้านเกิดมาเป็นเซลล์ขายรถ
    หลังจากเป็นพนักงานบริษัทได้ซักระยะ ก็ได้ลาออกมีเป็นเซลล์ขายรถที่บ้านเกิด ช่วงนี้สามารถเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง  จนสามารถเปิดร้านเกมส์ได้  โดยให้พ่อเป็นคนคุมร้าน แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง จึงทำให้ต้องปิดร้านไป

 จุดพลิกผันเบาๆ
    ในช่วงที่เป็นพนักงานขายรถ “คุณเกมส์” ยังมองหาความฝันเหมือนคนทั่วไป ไปฟังสัมมนาบ้าง อ่านหนังสือบ้าง เพื่อหวังว่าจะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเองให้ได้  
    แล้วจุดพลิกผันเล็กๆ ก็เริ่มส่อแวว.. เมื่อคุณเกมส์ คิดอยากขายบ้าน ด้วยเงินทุนที่น้อย..
    >>>จะสร้างเป็นโครงการย่อมเป็นไปไม่ได้แน่…
    >>>จะไปซื้อบ้านแล้วมาขายต่อ แล้วราคาจะสู้กับโครงการเขาได้หรือ…

Advertisements

มองหาช่องว่างให้เจอ…
    แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ซักเลย.. คุณเกมส์ ยังไม่ลดละ มองหาหนทางหลายๆด้าน…  สำรวจข้อมูล.. จนพบว่า ในโครงหมู่บ้าน เขาจะขายทั้งบ้าน และ ขายเฉพาะที่ดินเปล่า แล้วแต่ว่าลูกค้าต้องการซื้อ แบบไหน..

    – ซึ่งบ้านจะขายในราคา 2.5 ล้าน ( หากซื้อมาขายต่อ ราคาลายก็ต้องแพงกว่าโครงการ ขายไม่ได้แน่ )
    – ที่ดินเปล่า 50 ตารางวา ราคา 4 แสนบาท ( ถ้าซื้อมา แล้วสร้างบ้านเอง น่าจะมีกำไร )

    คุณเกมส์จึงเริ่มหาข้อมูล ว่าบ้านสร้างราคาเท่าไหร่  ซึ่งก็ราคาการสร้างก็ไม่สูงมาก  หากซื้อที่ดินมาแล้วสร้างบ้านเองน่าจะประมาณ ล้านกว่าๆ ก็น่าจะขายได้
จากนั้นจึงยืนกู้แบงค์ จากฐานเงินเดือนพนักงานขายรถ ต้องเดินสเตทเม้นท์กว่า 6 เดือน (ยืนเงินคนโน้นคนนี้ เข้าๆ ออกๆ)  แล้วหาช่างมาสร้างบ้าน ตามรูปแบบที่ตัวเองชอบ 

    โดยคิดว่าถ้าเราอยากอยู่บ้านแบบไหน  คนที่จะซื้อเขาก็อยากอยู่บ้านนั้นเหมือนกัน (คิดว่า เราจะอยู่ไหม จะเดินทางอย่างไร , อยู่แล้วจะเป็นยังไง , ถ้าอยู่ได้และอยากอยู่ , คนที่มาซื้อเขาก็ต้องอยู่ได้เหมือนกัน)

    ใช้เวลาแค่เดือนเดียวก็สามารถขายบ้านได้ ราคาต้นทุน 1.5 ล้าน ขายไป 1.9 ล้านบาท(เป็นราคาขายที่ถูกกว่าโครงการ) ได้กำไรมา 4 แสนบาท เลยทีเดียว…  เหมือนจุดประกายความคิด ว่าเราก็น่าจะทำธุรกิจได้นะ..

 
ไม่รู้..  ก็ฝึกได้..

บทเรียนแรกพึ่งเริ่มต้น…
    หลังจากนั้น ได้มีโอกาสไปสัมมนาอบรมการขายอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเริ่มมั่นใจ ก็คิดจะสร้างธุรกิจของตัวเอง โดยคิดจะทำหนังสือขาย เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับ “บ้านและรถยนต์” ที่หวังว่าจะมีคนมาลงโฆษณา “ประกาศซื้อขายบ้าน” ซึ่งทำไปพร้อมกับธุรกิจสร้างบ้าน หลังต่อๆ มา ที่มีคนเห็นหลังแรก ก็มาว่าจ้างให้สร้างหลังต่อๆ ไป จำนวนกว่า 6 หลัง

    ในระหว่างนี้ หนังสือประกาศขายบ้านและรถยนต์ ยอดขายไม่สู้จะดีนัก  ต้องเปลี่ยนแนวหนังสือ เป็นหนังสือแต่งรถยนต์ และติดต่อยี้ปั้วรายใหญ่ของประเทศ เพื่อจะได้กระจายหนังสือได้มากขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งพอเล่มแรกว่างไป ก็ขายดีมากๆ จนต้องออกเล่มสองต่อมา…

    แต่ปัญหาก็มาเยือนอีกรอบ..  ลูกค้าที่ว่าจ้างให้สร้างบ้าน หลังที่ 3 ไม่จ่ายค่างวดซักงั้น  ด้วยเหตุลูกค้าอยากได้ของดี แต่คุณเกมส์อยากเซฟค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง  ซึ่งการพูดคุยไม่ลงตัว  ลูกค้าจึงไม่จ่ายค่างวด

    ทำให้กระทบไปเป็นลูกโซ  เพราะธุรกิจยังเป็นช่วงเริ่มต้น  ยังเป็นเงินหมุนเวียน  เมื่อเงินขาดมือ สภาพคล่องหยุดชะงัก  ส่งกระทบไปถึงธุรกิจหนังสือ ต้องรูดบัตรเครดิต มาจ่ายเงินเดือนพนักงาน และต้องปิดธุรกิจขายหนังสือไปในที่สุด…

 
ผลตอบแทน.. รางวัลแห่งชีวิต…

ตกต่ำถึงขีดสุด…
    ช่วงนี้เป็น ช่วงที่พ่อคุณเกมส์ ได้มาขออยู่ด้วย ซึ่งสภาพของคุณเกมส์ตอนนั้นย้ำแย่มาก เมื่อพ่อมาเห็นอย่างนั้น…  ก็ได้แต่ปลอบใจ..  และบอกกับลูกว่า  “ถึงลำบากแค่ไหน ก็ไม่ต้องห่วงพ่อ ถ้าถึงที่สุด  พ่อไปอยู่วัดได้  ไม่ต้องเป็นห่วง”  หลังจากวันนั้น  พ่อของเกมส์กลับไปไม่นาน  ก็มีข่าวแจ้งกลับมาว่า “คุณพ่อเสียแล้ว” ด้วยเหตุผูกคอตาย..
    ความรู้สึกชาไปทั้งตัว หมดสิ้นแล้วชีวิต..  เหมือนตกหลุมดำ มองไม่เห็นอะไรเลย..

 ธรรมของพระพุทธองค์
แต่โชคยังดี… ที่คุณเกมส์หันหน้าพึ่ง “ธรรมะ” อยู่กับความเป็นจริงในทุกขณะ รู้ตัว.. รู้ใจ..  แล้วปล่อยวาง..
เมื่อมี “สติ” แล้วจึงค่อยกับมานั่งพิจารณา ว่าปัญหาเกิดจากอะไร..  ทำไมลูกค้าไม่จ่ายค่างวด
เมื่อใจสงบ.. ก็เห็นปัญหาอย่างแตกฉาน..

>>>เหตุที่ว่าลูกค้าไม่จ่ายค่างวด  เพราะเราทำสัญญาไม่เครียร์กับลูกค้าเอง สัญญาไม่ระบุให้ชัดเจน ในการเลือกใช้วัสดุ  
>>>จึงกลับไปแก้ปัญหา กลับไปคุยกับลูกค้า แล้วทางออกสายกลาง ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้  แค่นี้ปัญหาก็คลี่คลาย..
>>>เมื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าพอใจ..  งานก็เดินหน้าต่อไป  บ้านหลังต่อไปก็สร้างขึ้นได้ ทำให้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง.. อีกครั้ง

 
สุดท้ายก็.. คือ “ความว่างเปล่า”

ใจชนะทุกสิ่ง…
“บทเรียนที่ผ่าน ถือ เป็นแบบทดสอบที่ยิ่งใหญ่…”
“ความรู้ที่เฝ้าสะสมมา..  ใช่เป็นปัจจัยในความสำเร็จ..”
สิ่งสำคัญ.. มันคือ  “ใจ”
“ใจที่นิ่ง , ใจที่มีสติ , ใจที่ปล่อยวาง..”

   คุณเกมส์ พูดถึงเรื่องนี้ว่า  ปัญหาใหญ่ของคนทำธุรกิจ คือ เรื่องใจ ความกลัว , ความตื่นตระหนก , ความกังวล , ความสิ้นหวัง เช่น

    มนุษย์เงินเดือน : ไม่กล้าลาออก มาทำธุรกิจของตัวเอง เพราะกลัวที่จะล้มเหลว สู้กินเงินเดือนไปเลยๆ ดีกว่า..
    คนทำธุรกิจ : เมื่อประสบปัญหา  ก็ตระหนก ตื่นกลัวปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา ความท้อแท้ก็เกิดขึ้น

   สิ่งเหล่านี้ต้องจัดการด้วย “ใจ”

Advertisements

สร้างโครงการ (คอนโด)
    เมื่อผ่านศึกหนักมาแล้ว..  ประสบการณ์เพิ่มพูน  “จิตใจที่นิ่ง”  ก็เริ่มกลับมาลุยงานต่อ  จากรับสร้างบ้านเป็นหลังๆ  ก็หาทำเล ขึ้นโครงการอาคารพาณิชย์  แล้วตามมาด้วยโครงการคอนโด 8 ชั้น กว่า 76 ยูนิต  ที่เป็นโครงการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ  สร้างรายได้กว่า หลักล้านบาท

 เป้าหมายใหม่
    “เมื่อมาถึงความสำเร็จหนึ่ง  ก็มองหาโจทย์ใหม่”
    คุณเกมส์ ยังเปิด project ใหม่  คือ  ร้านสะดวกความสวย หรือ ร้านขายเครื่องสำอางแบบร้านสะดวกซื้อ เปิดขายยี่สิบสี่ชั่วโมง  แถมยังมีการเปิดรับฝากเครื่องสำอาจด้วย  โครงการใหม่กับเป้าหมายที่จะขยายสาขาไปทั่วประเทศ  เป็นโมเดลที่ต้องติดตามกันต่อไป

     “บทชีวิตของมนุษย์ มันยิ่งกว่าละคร”  ละครที่นักประพันธ์ เป็นคนขีดเขียน…
    “แต่บทชีวิตจริง คนที่จะเขียน คือ ตัวคุณเอง”
    ดังเช่น คุณเกมส์ ชายหนุ่มวัย 37 ปี  ที่เจอกับทุกปัญหา แล้วฝ่าฟันมันไป ด้วย “ใจ” และ “ความพยายาม” เป็นบทเรียนที่ต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วนำมาปรับใช้  เพื่อจัดการกับปัญหาที่จะเจอ  เมื่อนั้นความสำเร็จก็จะเป็นของคุณบ้าง…  นั่นเอง

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com

ข้อมูลธุรกิจ
คุณสุวิจักขณ์ ศรีอาริย์
FB:https://www.facebook.com/Mr.Marss