bannera1
จากเงิน 30,000 เจอทั้งไฟไหม้,โดน Copy [กว่าจะมีวันนี้..Kitty Kawaii หลักล้าน ]

จากเงิน 30,000 สู่… ธุรกิจหลักล้าน

จากเงิน 30,000 สู่… ธุรกิจหลักล้าน 

ธุรกิจ..ที่เริ่มจากศูนย์   การก้าวเดิน…สู่จุดหมายนั้น “แสนยาก”
แต่…ความสำเร็จ  ใช่เป็นไปไม่ได้..

อย่างเช่น…คุณเหมียว  ที่ต้องผ่านอปุสรรค-ปัญหา หลายครั้ง  กว่าที่จะมีวันนี้  วันที่ธุรกิจของเธอมียอดขาย…แตะระดับหลักล้านบาท/ปี

คุณเหมียวต้องพบปัญหา-อุปสรรค ใดบ้าง… เราลองไปดูกันเลยครับ

 
รูปภาพ(ทำงานที่ร้านอาหาร)

จุดเริ่มต้นที่พลิกผัน…

     จากครอบครัวที่พอมีฐานะ ครอบครัวที่ทำธุรกิจส่วนตัว “กลับต้องพลิกผัน ชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีหนี้สินเป็นต้นทุน” คุณพ่อ-คุณแม่ ถูกโกง ทำให้มีหนี้สินหลายสิบล้าน… 

    ซึ่งเป็่นช่วงที่   “คุณเหมียว (ดุจธนนันท์ เกียรติเชิดแสงสุข)” จบปริญญาตรี..พอดี ด้วยเป็นคนที่ชอบเรียน อยากไปเรียนต่อปริญญาโท ในสาขาที่ตนเองชอบ แต่กลับไม่มีเงินทุนที่จะไปเรียน

    โชคยังดีที่… “อาเจ็ก” หรือ คุณอา ได้ยืนมือเข้ามาช่วย  ให้เงินทุนจำนวนหนึ่งไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศ แต่ด้วยความเป็นห่วง “พ่อกับแม่” จึงเอาเงินไปเฉพาะแต่ค่าเทอมเท่านั้น  ส่วนที่เหลือให้พ่อกับแม่ไว้ใช้ และตั้งใจไว้ว่า..เรียนจบ จะกลับมาทำงานทดแทนพระคุณ…อาเจ๊ก

 
รูปภาพ(จบการศึกษา)

     ในช่วงที่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ก็เป็นชีวิตที่ต้องต่อสู้…อดทนมาก  เพราะต้องเรียนด้วย..แล้วก็ทำงานพิเศษไปด้วย ต้องวิ่งรอกทำงานในร้านอาหาร 2 ร้าน , ตั้งแค่ 9 โมง ถึงเที่ยงคืน ,เลิกงานต้องฝ่าอากาศหนาว มาขึ้นรถเมล์เที่ยวสุดท้าย…

    ร้านที่ไปทำงาน…จัดเป็นร้านที่งานค่อนข้างโหด ในเมือง Leeds ของอังกฤษ  นักเรียนไทยส่วนใหญ่ ไปทำได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องเลิกทำ 

    แต่สำหรับ…คุณเหมียว  อดทนมาก…ทำกว่า 1 ปี  ทำยาวจนถึงกลับเมืองไทย กลับมาพร้อมกับความตั้งใจ-มุ่งมั่นว่า.. “จะต้องไปช่วยพ่อแม่ปลดหนี้สินให้ได้”   “ต้องเป็นที่พึ่งให้กับ…พ่อและแม่ให้ได้”

 ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii

หาทางสู่ธุรกิจ

     หลังจากกลับมาถึงเมืองไทย  งานแรกที่ได้เริ่มต้นเป็นไปตามที่ตั้งใจ ก็คือ ไปเป็นผู้ช่วยดูแลร้านขายทอง-ของคุณอา ในห้างสยามพารากอน  โดยคุณอาได้ให้เงินเดือน 20,000 บาท , โดยเงินส่วนใหญ่..จะให้คุณแม่  เหลือแบ่งแค่พอใช้ เป็นค่าอาหาร และค่ารถไฟฟ้า

   วันหนึ่ง…  เพื่อนมาหาที่ร้าน พูดคุยกันตามประสาผู้หญิงๆ  เพื่อนชวนให้ซื้อ “คอนแทคเลนส์” ที่ผ่านเว็บไซต์หนึ่ง มีราคาขายปลีกอยู่…ถึงพันกว่าบาท 

   พอนั่งดูไปเลยๆ กลับเจออีกเว็บ  ขายส่งในราคาเพียง 600 บาท ซึ่งเป็นราคาที่มีกำไรถึง 100 % ในใจคุณเหมียว…คิดว่า “โอ้ถ้าเราเอาขายบ้างคงได้กำไรดี” ไฟในตัวมันลุกโชนขึ้นมาทันใด “เมื่อคิดแล้วต้องลงมือทำเลย”

 ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii
บินไปประเทศเกาหลี…ดูโรงงานผลิต

บุกหาแหล่งผลิต เพื่อ ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii

     จากนั้น….ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลงมือค้นหาข้อมูลทันที ซึ่งในตอนนั้น…. คอนแทคเลนส์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ คอนแทคเลนส์จากประเทศเกาหลี จึงได้ส่งอีเมลล์ไปตามโรงงานผู้ผลิตกว่า 30 แห่ง

ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii
รับรองคุณภาพ…เยอะมาก

    คุณเหมียว…ได้ตัดสินใจเลือกอยู่ 3 โรงงาน แต่ต้องบินไปดูถึงโรงงานเลย   เพื่อการตัดสินใจเลือกขั้นสุดท้าย ว่าจะใช้สินค้าจากโรงงานไหนดีที่สุด ในที่สุดก็ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์

 ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii
เยี่ยมชม…โรงงาน

คิดการใหญ่ แต่เริ่นต้นด้วยจากจุดเล็กๆ

      เริ่มด้วยการสั่งซื้อมาเพียง 30,000 บาท  ได้คอนแทคเลนส์มา 100 คู่ แล้วขายด้วยการเปิดเว็บไซต์  ขายทางออนไลน์  เดือนแรกขายได้ 100,000 บาท , ดีใจมากๆ ภูมิใจสุดๆ  เงินก้อนแรกที่หาได้…

     จากนั้น…ก็เริ่มคิดต่อ  ทำอย่างไร…จะขายสินนค้าได้เยอะขึ้น  เข้าถึงลูกค้าได้มากกว่านี้  เพื่อสัมผัสลูกค้าได้

ขายตามตลาดนัด ทั้งเช้า-ทั้งเย็น

     คุณเหมียว…ยังใช้เวลาช่วงเช้า 6 โมง – 10 โมง ไปลงขายตามตลาดนัด(สีลมซอย 1) จากนั้นก็ไปทำงานที่ร้านทองต่อ.. พอ 2 ทุ่ม ปิดร้านทอง  , ก็มาตั้งโต๊ะขายต่อ…ที่ริมฟุตบาต แถวสยาม เลิกอีกทีก็เที่ยงคืน..

    คุณเหมียว…เล่าให้ฟังว่า ระหว่าง..ขายคอนแทคเลนส์   บางครั้ง…มีคนเคยถามว่า “ไม่อายหรือจบปริญญาโทเมืองนอกมายืนขายของข้างถนน”

    อยากจะบอกเขาว่า…  “ไม่อายเลย ภูมิใจมากกว่า”  ทำงานสุจริต-เงินที่ได้มาจากน้ำพัก-น้ำแรง  เงินที่จะไปเลี้ยงบุพการี  ทำไมเราต้องอาย…

    ขอบอกว่า…เราอย่ายึดติดกับภาพลักษณ์-ตัวตน   จนไม่กล้าทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง   เวลาที่..เราทำอะไรอย่างตั้งใจ  เหมียวว่ามันมีคุณค่า-มีความหมาย “จงอย่าไปอาย..ที่จะทำดี จงทำความฝัน…ด้วยความตั้งใจ” นี่แหละตัวตนที่แท้จริง

    แน่นอนหลายๆคนคัดค้านเรา  แต่หลายๆคนก็ชื่นชมเรา  ขึ้นอยู่กับเราจะเก็บสิ่งใดมาไว้ในใจ เช่น ตอนขายของอยู่ที่สยาม  ยังจำได้ดีว่า…ได้พบกับอาจารย์ปิง(ดาวอง)  ที่เรานับถือตั้งแต่สมัยเรียน  เข้ามาทักเราที่เป็นลูกศิษย์  แล้วชมว่า… “ทำดีแล้วลูก” ยิ่งทำให้มีกำลังใจทำต่อไป.. ภาพยังจำได้อยู่จนทุกวันนี้…

    ชีวิต..หมุน ซ้ำแล้ว..ซ้ำอีก เป็นปี  จนเริ่มเก็บเงินก่อนได้…

 

เปิดร้านแรก…ก็โดนไฟไหม้ ( วิกฤต ครั้งที่.1 )

    เมื่อ…ธุรกิจ เริ่มไปได้สวย  จึงหันมาเปิดร้านแรก ในห้างเซ็นเตอร์วัน ลงทุนกับร้านนี้ไปหลายแสนบาท  แต่เปิดได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุไฟไหม้ เหตุการณ์-ปี 2553

    ตอนนั้น…คุณเหมียว อยู่ที่บ้าน  ได้แต่ฟังข่าว  กว่าจะเข้าไปที่ร้านได้ ก็ผ่านไปเป็นอาทิตย์  สภาพแรกที่เห็น คือ เถ้าถ่าน-ดำไปหมด , ตู้โชว์แตกกระจาย , ทุกอย่างหมดไปกับไฟ 

    คุณเหมียว…ต้องทำใจซะพักใหญ่  แล้วหันหน้า…มาสู้ต่อ  คิดแต่เพียงว่า… “อะไร…จะหมดก็ได้  แต่ใจเรา…ต้องไม่หมด” “เริ่มมาจากยิ่งกว่าศูนย์…จะเริ่มอีกซักคร้ังจะเป็นไร”

    คุณเหมียว…ตัดสินใจลาออก จากร้านทอง  แล้วหันหน้าสร้างร้านของตัวอีกครั้ง  ประสบการณ์ที่ผ่านยิ่งทำให้แกร่ง แถมด้วยความรู้ที่ชำนาญมากขึ้น  จึงใช้เวลาไม่นาน ธุรกิจก็เริ่มฟื้นตัว…

 ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii

 คุณภาพ..สร้างยอดขาย

พอทุกอย่างเริ่มเข้าที…
ธุรกิจ ก็เดินหน้าเต็มตัว

    ยอขายที่เพิ่มขึ้น  ส่วนหนึ่งนั้น…ก็มาจากตัวสินค้าที่มีคุณภาพ กล่าวคือ “คอนแทคเลนส์” ที่นำเข้ามาขายนั้น  เป็นคอนแทคเลนส์ 2 ชั้น เม็ดสีจะอยู่ระหว่างชั้นของเลนส์ และวัสดุของคอนแทคเลนส์  ก็มีลักษณะเนื้ออ่อนนุ่ม  ไม่ทำร้ายดวงตาของผู้สวมใส่  จึงทำให้เกิดการก้าวกระโดดของยอดขายอย่างต่อเนื่อง…

 ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii

ในวิกฤตมีโอกาส ( วิกฤต ครั้งที่.2 )

     “เมื่อเริ่มขายดี มีตัวแทนเข้ามามาก” การคิดสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองจึงเริ่มต้นขึ้น กับแบรนด์ที่มีชื่อว่า “คอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii” นั่นเอง 

     “แต่อย่างว่า ธุรกิจ ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นได้เสมอ”  เกิดข่าวใหญ่ดังไปทั่ว มีคนติดเชื้อจากการใส่คอนแทคเลนส์  ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังออกแบรนด์ Kitty Kawaii พอดี  ทางองค์การอาหารและยา(อ.ย.) ออกกฎระเบียบใหม่ทันที ห้ามขายคอนแทคเลนส์ที่นำเข้าจากเกาหลี  จัดคอนแทคเลนส์ให้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์

     ทุกปัญหาวิ่งเข้าใส่ คุณเหมียว ทันที ทั้งเรื่องสต๊อกสินค้าที่มีเป็นจำนวนมาก และตัวแทนที่ขายสินค้าไม่ได้เลย  ซึ่งแต่ละตัวแทนก็มีภาระต้องรับผิดชอบเช่นกัน ในแต่ละวันมีสายเข้ามาตลอดเวลา เป็นเสียงร้องไห้จากตัวแทน  วิกฤตนี้..รุนแรง

 ธุรกิจขายคอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii

ตัวแทน คือ ครอบครัว

     ในใจของคุณเหมียว เกิดความรู้สึกถึงทางตัน “แล้วเราจะทำอย่างไรดี” เมื่อเกิดปัญหาสิ่งแรกที่ทำ คือ ถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วก็คิดว่า “ตัวแทนทุกคนเป็นครอบครัว เราเป็นหัวหน้าครอบครัว เราต้องสู้เพื่อทุกคนในครอบครัว”  แต่ละคนต้องผ่อนบ้าน ,ผ่อนรถ , มีภาระครอบครัวต้องดูแล  ,ถ้าเรายอมแพ้…แล้วพวกเขาจะอยู่อย่างไร

    จากนั้นจึงเริ่มต้นอีกครั้ง.. ด้วยการเข้าไปที่ อ.ย. เพื่อที่ว่า…ต้องขอ อ.ย. ให้ได้  ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องเที่ยวไปเที่ยวมาระหว่างบ้าน กับ ที่องค์การอาหารและยา ซึ่งห่างกันเป็นระยะทาง 80 กิโลเมตร เกือบทุนวัน…

     ในที่สุดก็สามารถขอ อ.ย. ได้สำเร็จ นับเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย จากปัญหาก็กลับกลายเป็นยอดขาย…ที่ก้าวกระโดด  ไปอีกหลายเท่าตัว ตัวแทนทุกคนต่างแฮปปี้ แถมยังช่วยขายอย่างเต็มที จากการที่เห็นถึง การที่ไม่ถอดทิ้งพวกเขาในยามยาก ของคุณเหมียว ทุกคนจึงทำงานกันอย่างเต็มที สร้างรายได้ให้ทั้งตัวแทนและคุณเหมียวเป็นอันมาก…





Advertisements

ปัญหาใหญ่ ( วิกฤต ครั้งที่.3 )

     “ขายดีมาก จนโดนก๊อปปี้” ปัญหาใหญ่ที่หลายๆธุรกิจก็ต้องเจอ ไม่พ้นที่จะเกิดกับ “คอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii” เมื่อสินค้าขายดีมากมีพวกพ่อค้าหัวใสหาทางลัด ใช้วิธีสั่งสกรีนสติกเกอร์แล้วนำมาติดข้างขวดสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ทำให้ลูกค้าหลงเชื่อซื้อไปใช้ ผลลัพธ์ที่ได้…ไม่เป็นไปตามอย่างของแท้ ลูกค้าเกิดปัญหาใส่แล้วเจ็บดวงตา สร้างความเสื่อมเสียให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก

     คุณเหมียว จึงหาทางแก้ปัญหา โดยการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ลูกค้า ให้ลูกค้ารู้วิธี  ดูความแตกต่างของบรรจุภัณฑ์ และ ในการซื้อสินค้านั้น ต้องซื้อจากตัวแทนและสถานที่จัดจำหน่าย  ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการด้วย

    ผนวกกับเริ่มสร้างบรรจุภัณฑ์,ป้ายฉลากสินค้าด้วยวัสดุที่เลียนแบบได้ยาก ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพ ทำให้สามารถแก้ปัญหาไปได้

   “ทำให้…ตอนนึ้ไม่มีของปลอมในตลาดแล้ว” คุณเหมียวฝากวิธีการสู้กับของปลอม ไว้ว่า.. เราต้องยืนหยัดในคุณภาพของสินค้าเราและพัฒนาไปข้างหน้า   ของปลอมได้แต่เพียงเลียนแบบ  ให้เราใช้ของปลอมเป็นแรงขับ-แรงผลักดัน  ให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่าต่อเนื่อง… พัฒนาคุณภาพสินค้าอย่าหยุด

เศรษฐกิจไม่ดี ของคุณภาพต่ำ..ระบาด ( วิกฤต ครั้งที่.4 )

    ปัจจุบัน…ในตลาดไทยตอนนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี  จึงมีแม่ค้าบางกลุ่มหันไปขายเลนส์ราคาถูกเพื่อกำไรที่เยอะขึ้น  จึงทำให้เลนส์คุณภาพดี ที่มีต้นทุนสูงอย่างแบรนด์คิตตี้คาวาอิ  คนขายน้อยลง แต่คุณเหมียวก็ยังไม่ท้อ

    “เหมียวคิดว่าลูกค้า คือ ผู้มีพระคุณที่ทำให้เรามาถึงทุกวันนี้ เหมียวจึงเน้นมอบสิ่งที่ดีให้ลูกค้าเท่านั้น เหมียวเองเป็นคนสายตาสั้นต้องใส่เลนส์ตลอดเวลา เหมียวใส่ยี่ห้อตัวเองแทบจะ 18 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าของไม่ดีใส่แล้วตาจะเจ็บ แต่เหมียวเข้าใจเหตุผลของแม่ค้าทุกคนนะ ค้าขาย-กำไรเป็นสิ่งสำคัญ เพียงแต่สำหรับเหมียวคุณภาพ ความปลอดภัยต้องมาก่อนค่ะ และการที่สินค้าเราดีมีคุณภาพ ก็จะช่วยให้ธุรกิจเรายั่งยืนด้วยค่ะ”

 





Advertisements

     กว่าจะมา…ถึงจุดนี้ได้  ต้องพบปัญหา-อุปสรรคมากมาย  แต่สิ่งที่ทำให้…ผ่านมาได้   ก็คือ “ความมุ่งมั่นและการทุ่มเท  ซึ่งยังคงเป็นบทสรุปของธุรกิจนี้ตลอดกาล”

……………………………………………………..

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
(ข้อมูลลิขสิทธ์จากสัมภาษณ์ คุณดุจธนนันท์ เกียรติเชิดแสงสุข
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2559 
โดยทีมงาน www.ทำเลขายของ.com )
ไม่อนุญาต “คัดลอก” รวมถึงในกรณี ที่จะใส่ลิ้งค์กลับ ก็ไม่อนุญาต เช่นกันนะครับ
อนุญาตให้ “แชร์” ได้ครับ
ขอบคุณครับ

สามารถติดตาม “คอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii” ได้ที่
ข้อมูลธุริจ  

ชื่อธุรกิจ :
คอนแทคเลนส์ Kitty Kawaii
ชื่อเจ้าของธุรกิจ :
คุณดุจธนนันท์ เกียรติเชิดแสงสุข
ที่อยู่ :
tel :  095-654-6469
IG : kittykawaiilens
ID Line :
 kittykawaii_lens
Web:
www.kittykawaiilens.com
Email :
kittykawaiilens@hotmail.com

 

copyright

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.