bannera1 bannera1 bannera1
จากเด็กสาวลูกชาวนา จบแค่ ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

จากเด็กสาวลูกชาวนา จบแค่ ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

จาก เด็กสาวลูกชาวนา จบเพียง ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของ ธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

“ชีวิต คือ การต่อสู้”

     เมื่อเด็กสาวบ้านนอกจากจังหวัดอุทัยธานี  ที่ต้องต่อสู้ชีวิต  จากท้องนา สู่.. เจ้าของกิจการ “ธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery”  สร้างยอดขายหลักล้านบาท/เดือน มีพนักงานมากกว่า 20 คน , กว่าจะมีวันนี้ได้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง…  ไปตามหาความสำเร็จ เคล็ด(ไม่)ลับ กันแบบเจาลึกได้เลยครับ

เกิดจาก “ครอบครัวชาวนา”

    ชีวิตชาวไร่ – ชาวนา ที่ต้องอดทด “หลังฟ้าหน้าสู้ดิน” ไม่ได้ทำให้ครอบครัว ของ “พี่ตุ๊ก” หรือ คุณจินตนา บัวเทศ ท้อแท้ต่อโชคชะตา  ในทางตรงกันข้าม กับยิ่งทำให้ “ต่อสู้” แบบไม่มีถอย 

    พอหมดหน้านา..  คุณแม่ กับ พี่ตุ๊ก ก็ออกหารายได้เสริม ทำทุกอย่างที่จะสร้างรายได้ ขายขนมตาลบ้าง , ขายก๋วยเตี๋ยวบ้าง อะไรที่เป็นอาชีพสุจริต สองแม่ลูกสู้ไม่เคยเกี่ยง…

    ความลำบาก เป็นสาเหตุทำให้ “พี่ตุ๊ก” ได้เรียนแค่ชั้น ม.3 , พออายุ 20 ปี ก็แต่งงานมีครอบครัว ยังตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ออกขาย ไก่ย่าง ส้มตำ ตามงานวัดในจังหวัดอุทัยธานีต่อไป

/wp-content/image/post/boy/AA/MK0001061.jpg

มุ่งหน้าเข้าเมืองหลวง (สีลมซอย.5) ปี 2537

   การขายของในต่างจังหวัด จะขายยังไง… ก็ขายได้ไม่มาก… (คุณกัญจร โพธิ์ใจ) คุณแม่ของคุณตุ๊ก จึงเข้าไปทำงานในกรุงเทพ โดยไปทำงานเป็นแม่ครัว ในร้านขายอาหารตามสั่ง แถวสีลม-ซอย 5 , อันที่จริงก็ต้องทำทุกอย่าง  จนได้รับหน้าที่เป็น “มือผัดประจำ กระทะผัดไท” ด้วยฝีมือรสชาติผัดไทที่อร่อยถูกปาก ทำให้ลูกค้าติดกันมาก

   ช่วงนี้เป็นช่วง ที่คุณแม่ ก็มองหาช่องทางไปด้วย  ด้วยฝันว่า “ซักวันเราจะต้องมีธุรกิจของเราเองให้ได้” ทำงานที่สีลมได้ซักระยะ ก็ได้ชวนลูกสาว “คุณตุ๊ก” มาทำงานด้วยกัน , ซึ่งคุณตุ๊กก็เข้ามาทำงานกับแม่  และต้องทำทุกอย่างภายในร้าน ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์

รถเข็นคันเดียว ก็สู้… (“ธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery”)

    หลังจากที่ทำงานวันจันทร์-วันศุกร์ “พี่ตุ๊ก” กับ “คุณแม่” ยังมาเปิดร้านรถเข็นเล็กๆ  ที่หน้าแบงค์กรุงเทพ สีลมซอย 5 อีกด้วย  ต้องตื่นแต่เช้ามืด ขนข้าวของ,กระทะ,เครื่องใช้ต่างๆ ที่เก็บไว้อาคารหนึ่งในสีลม บนชั้น 7 , ขนจากชั้น 7 มาด้านล่าง โดยไม่ใช้ลิฟท์ (เพราะ เสาร์,อาทิตย์ เขาปิดไม่ให้ใช้) ลำบากมากๆ  แต่ก็อดทนสู้..

   แม้จะเป็นเพียงแค่ร้านรถเข็นเล็กๆ แต่ก็ขายดี มีรายได้ 2,000 – 3,000 บาท/วัน ทั้งที่เป็นวันหยุดของพนักงาน ยิ่งเป็นกำลังใจ ว่าเราก็ทำได้…

จาก เด็กสาวลูกชาวนา จบเพียง ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

จำนองที่ดิน เพื่อมา… เปิดร้าน (ปี 2538)

    เมื่อเริ่มเห็นช่องทาง คุณแม่ จึงได้เอาที่ดินไปจำนอง ได้เงินมา “300,000 บาท” เพื่อมาเซ้งร้านในซอยสีลมซอย.5 เปิดร้านขายข้าวแกง ขนาดไม่ใหญ่มาก มีที่นั่งประมาณ 15 โต๊ะ , ซึ่งขายได้ไม่ถึง 3 เดือน ก็ต้องปิดตัวลง  ด้วยหลายสาเหตุ ทั้งที่ก็ขายดี…

    พี่ตุ๊ก เล่าว่า… สาเหตุที่ต้องเลิกเพราะ ค่าเช่าที่สูงมาก 70,000 บาท/เดือน , เงินหมุนเวียนในธุรกิจเราน้อยมาก เพราะหมดไปกับการเซ้ง  ต้องจ่ายค่าเซ้ง 3 เดือน เป็นเงิน 210,000 บาท ที่เหลือก็หมดไปกับค่าอุปกรณ์  ทำให้เงินทุนเราแทบไม่เหลือ ในที่สุดก็ต้องหาทางใหม่….

ไปเปิดร้านข้าวแกงที่ จุฬา ( ปี 2539 )

    โชคยังดี ด้วยความมีอัธยาศัยดี ของคุณแม่ จึงมีเพื่อนร้านก๋วยเตี๋ยวท่านหนึ่งแนะนำให้ไปเปิดร้าน ที่โรงอาหารจุฬาคณะแพทย์  ซึ่งมีคนจะเซ้งต่อ  โดยเจ้าของร้านเขาให้ทดลองขายฟรี 1 เดือน , หากขายดี ก็ค่อยมาเซ้งไปก็ได้

    แต่สำหรับการขายที่จุฬา นั้นไม่ใช่งานง่าย ปัจจัยหลัก คือ “เรื่องราคาขาย” ที่กำหนดไว้ว่าต้องขายในราคา “กับข้าว 1 อย่าง 9 บาท , 2 อย่าง 12 บาท”  ซึ่งราคาข้างนอกขายกัน 25 บาท งานหินสุดๆ  แถมด้วยบังคับต้องเปิดตั้งแต่เวลา 05:00 – 20:00 น. เพื่อให้นิสิตแพทย์ได้มีอาหารทานตลอดทั้งวัน





Advertisements

“สู้ไม่ถอย..”

     “พี่ตุ๊ก” เล่าว่า ช่วงเปิดขายที่จุฬา ได้รับประสบการณ์ทำธุรกิจอย่างมากๆ  เพราะทุกอย่างต้องทำเองทั้งหมด โดยมีคนในครอบครัวช่วยกันเต็มที ทั้ง แม่ , แฟน และ น้อง  การที่ได้ลงเมื่อทำ และ การที่ต้องควบคุมต้นทุนราคา เพื่อให้มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด.. เพื่อให้พอเหลือกำไร

    “ใบกระเพาะต้องเด็ดอย่างไร , ผักต่างๆ ต้องใช้ส่วนไหน , เนื้อควรเลือกซื้อยังไง” ทุกอย่างถูกลงรายละเอียด  เปิดตำราเรียนรู้จากการทำงานจริง  ทำให้ลด..การรั้วไหลไปได้มาก แม้ราคาขายข้าวแกงจานละ 12 บาท ก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย..

    พอตกเย็นๆ ก่อนที่จะเลิกงาน พี่ตุ๊ก ยังออกเดินขายไปตามตึกต่างๆ ในจุฬา สร้างรายได้เพิ่มอีกทาง กลายเป็นแสงที่เริ่มจะเห็นถึงช่องทางในการทำมาหากิน…

จาก เด็กสาวลูกชาวนา จบเพียง ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

เซ้งต่อ… แต่ใช่ว่าจะได้ขาย  (“ธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery”)

    พอครบ 1 เดือน  ก็เซ้งต่อจากเจ้าของเดิมในราคา 40,000 บาท  ด้วยเขาให้ทยอยแบ่งจ่ายได้  ซึ่งขายไปได้ไม่นาน ทางมหาลัยจุฬาแจ้งให้เลิกขาย  เพราะเข้ามาขายไม่เป็นตามระเบียบของมหาลัย จึงต้องหยุดขาย

   แต่แล้ว “หัวหอ” ผู้ดูแลตึก เรียกคุณแม่ของพี่ตุ๊กไปพบ ว่าให้ไปยื่นเอกสารไว้ ทำให้ถูกตามระเบียบ เมื่อมีที่ก็จัดสรรลงให้ คงเป็นด้วยการทำอาหารที่เน้นคุณภาพ  รสชาติอร่อย จนทำให้นักศึกษาติดใจ ทำให้ได้โอกาสครั้งใหม่

   ซึ่งไม่นาน ก็ได้พื้นที่เล็กด้านในสุดของโรงอาหาร แต่ถึงพื้นที่เล็กก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค ยังขายดีมากๆ  นักศึกษาต่อคิวจนล้นไปบังหน้าร้านคนอื่น ทำให้บ้างร้านเขาเขม่นเอา ซึ่งคุณแม่ของพี่ตุ๊กก็บอกว่า “เราต้องอดทนนะ” สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี  พอเริ่มมีการคัดเลือกร้านครั้งใหม่  ร้านของพี่ตุ๊ก ก็ถูกคัดเลือกเข้าไปขายอย่างถูกต้อง

จาก เด็กสาวลูกชาวนา จบเพียง ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

พลิกชีวิต เพราะ Organize

    ช่วงที่ขายในมหาลัย ได้มีพนักงานจาก บริษัทออแกไนซ์ แห่งหนึ่ง มาทราบภายหลังว่า คือ บริษัท ตือ จํากัด เขามาทานข้าวแกงที่ร้านแล้วติดใจในรสชาติ  จึงได้สั่งไปออกงาน พี่ตุ๊ก เล่าว่า ยังจำได้ดี ว่าตอนนั้น “ผู้ใหญ่ในงาน ชอบ แกงเขียวหวานหมูมาก” เอ่ยปากชมว่า “อร่อย”

    จากนั้นมา “งานอีเวนท์” ต่างๆ จะเรียกใช้บริการร้านพี่ตุ๊กตลอด จากคนหนึ่งชิม  บอกต่อไปอีกคน กลายเป็นการบอกต่อ “ปากต่อปาก” เพิ่มฐานลูกค้าขึ้นอย่างมากมาย

    ภายหลัง เพื่อความสะดวกในการรับประทาน จึงได้ปรับให้เป็นกล่องๆ  จากลูกค้าออแกไนซ์ ก็ลามไปถึงลูกค้าที่เป็นพนักงาน มาเพิ่มอีก สร้างรายได้เพิ่มขึ้น

จาก เด็กสาวลูกชาวนา จบเพียง ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

ขายเฉลี่ยวันละ 2,000 กล่อง (“ธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery”)

    เมื่อเริ่มขายดี.. ก็เริ่มขยับขยาย.. มาเปิดอีกแห่ง  (พระราม.3 ที่อยู่ปัจจุบัน) ทำแต่ข้าวกล่องโดยเฉพาะ อาศัยลูกค้าเก่าที่ยังเหนียวแน่น… และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง..  ทำให้มีรายได้หมุนเวียนหลักล้านบาท/เดือน

    ปัจจุบัน ต้องมีแม่ครัวถึง 4 คน พนักงานอีกกว่า 20 ชีวิต , ที่ค่อยผลิตแบบวันต่อวัน เพื่อให้ทันส่งลูกค้า โดยพี่ตุ๊กจะคอย จัดสรรหน้าที่การทำงาน ตามตำแหน่ง คล้ายระบบโรงงานย่อยๆ

    ตอนนี้ ราคาขายข้าวกล่องอยู่ที่ 45 – 85 บาท (แล้วแต่เมนู) หากคิดแบบกลางๆ ว่า ขายที่กล่องละ 50 บาท , วันหนึ่งขายได้ 2,000 กล่อง จะมีรายได้ 100,000 บาท/วัน , เดือนหนึ่งก็ 3 ล้านบาท เลยทีเดียว

    เมนูเด็ดที่ทำให้ลูกค้าติดใจ ก็คือ ผัดน้ำปลาทู , ข้าวผัดน้ำพริกปลาย่าง+ไข่ต้ม เป็นต้น





Advertisements

เคล็บลับความสำเร็จธุรกิจข้าวกล่อง

    พี่ต๊ก เล่าว่า การทำอาหารขายไม่ใช่เรื่องง่าย.. แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย..  โดยเฉพาะอย่างเช่น พี่ตุ๊ก ไม่ได้เรียนหนังสือสูง ไม่ได้ทำการตลาด แต่ 3 สิ่งที่ต้องมีในการทำอาหารขาย ของพี่ตุ๊ก ก็คือ

1.ใส่ใจ

ใส่ใจ ลูกค้า : ต้องรู้ว่าเขาต้องการอย่างไร เช่น ต้องถามว่าจะทานเป็นอาหารเช้า หรือ กลางวัน เพราะบ้างเมนูต้องทานเลย บ้างเมนูก็อยู่ได้หลายชั่งโมง ก็ยังอร่อยอยู่ ,  บ้างครั้งลูกค้าอยู่ไกล ต้องใช้เวลาเดินทางนาน ก็ต้องบอกว่าเมนูนี้สั่งไม่ได้ ไปถึงแล้วจะไม่อร่อย เป็นต้น

ใส่ใจ สินค้า : การทำอาหารต้องละเอียดมากๆ  วัตถุดิบที่เลือกใช้ ความสดใหม่ แหล่งซื้อ ต้นทุนราคา การสูญเสียด้วยใช่เหตุ ต้องควบคุมให้ดี แม้เรื่องรสชาติ พี่ตุ๊ก ก็จะชิมเองทุกครั้ง..

ใส่ใจลูกน้อง : การรู้จักความสามรถของแต่ละคน  คนไหนต้องไปทำอะไร ถูกจัดสรรไปตามถนัด และให้ผลตอบแทนที่ดี

2. อดทน
การทำงานต้องเจอความยากลำบากกันทุกคน อยู่ที่ว่าเราอดทนได้แค่ไหน แล้วลุกขึ้นมาสู้ได้ก่อนกัน  บ้างครั้งดูเหมือนจะหมดหนทาง แต่ถ้าตั้งสติดีๆ  ก็จะเจอทางออกเอง

3.แก้ไข
ปัญหาจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยทิ้งไว้ เช่น ลูกค้าเจอหนังยาง 1 เส้น ในกล่องข้าว , ต้องรีบแก้ไข  หาสาเหตุให้ได้ว่ามาจากอะไร และแก้ไขกระบวนการผลิตทันที  ส่วนลูกค้าก็ต้องขอโทษเขา และทำให้เขาพอใจมากที่สุด

จาก เด็กสาวลูกชาวนา จบเพียง ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Deliveryใบจดรายการสั่งของ “พี่ตุ๊ก”

ผลตอบแทนจากการต่อสู้..

    ปัจจุบัน “พี่ตุ๊ก” ส่งเสียลูกสาว 2 คน จนเรียนจบปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ 1 คน  ส่วนอีกคนอยู่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 3 กำลังจะจบ  

    ไปซื้อที่ดินที่อุทัย ให้คุณแม่ มีไร่มะนาวให้ปลูกยามว่าง , ตอนนี้เรียกว่ามีพร้อมทุกอย่างแล้ว อนาคตถ้ายังไหว ก็ยังจะทำต่อไป

      จะเห็นได้ แม้ว่าจะเป็น “ธุรกิจข้าวกล่อง Delivery” ก็สามารถสร้างเงินล้านได้เหมือนกัน อยู่ที่ความ “ความอดทน ความพยายาม การใส่ใจที่จะเรียนรู้”  เมื่อโอกาสมาถึง…  ก็พร้อมจะคว้ามันไว้ได้ตลอดเวลา 

“คุณค่าของคน ไม่ได้วัดที่ระดับการศึกษา  แต่คุณค่าที่แท้จริง คือ การยืนด้วยลำแข้งตนเอง อย่างภาคภูมิ”

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย ทำเลขายของ.com
(ข้อมูลลิขสิทธ์ จากสัมภาษณ์คุณจินตนา บัวเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2558 
โดยทีมงาน www.ทำเลขายของ.com )
ไม่อนุญาต “คัดลอก” รวมถึงในกรณี ที่จะใส่ลิ้งค์กลับ ก็ไม่อนุญาต เช่นกันนะครับ
อนุญาตให้ “แชร์” ได้ครับ
ขอบคุณครับ

สามารถติดตาม “ข้าว กับ แกง by ตุ๊ก” ได้ที่
ข้อมูลธุริจ  

ชื่อธุรกิจ :
ข้าว กับ แกง by ตุ๊ก
ชื่อเจ้าของธุรกิจ :
คุณจินตนา บัวเทศ
ที่อยู่ :
tel : 081-866-5423

ปล.ขอขอบคุณ “พี่ตุ๊ก” ที่ได้ให้ข้อมูลต่างๆ กว่า 1 ชั่วโมง ที่ได้มีโอกาสได้คุยกับพี่ตุ๊ก รับรู้ถึงพลังงานบ้างอย่าง ที่แผ่ซานออกมาจากน้ำเสียง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่ามีพลังในการต่อสู้  เรื่องราวดีดีนี้ คงทำให้ใครหลายคน “ลุกขึ้นสู้”   “สู้แบบยิบตา” เพื่อมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ เฉกเช่น พี่ตุ๊ก

1 Comment on จากเด็กสาวลูกชาวนา จบแค่ ม.3 แต่ก้าวสู่ เจ้าของธุรกิจข้าวกล่องเงินล้าน Delivery

  1. ชอบค่ะ ได้เห็นอาชีพที่หลากหลาย เป็นแนวในการทำธุรกิจ

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.