bannera1
ธุรกิจ ผักหวานป่า เศรษฐีน้อยแห่งสระบุรี สร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อวัน

ธุรกิจ ผักหวานป่า เศรษฐีน้อยแห่งสระบุรี สร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อวัน

ธุรกิจ ผักหวานป่า ของ คุณน้ำผึ้ง เศรษฐีน้อยแห่งสระบุรี





Advertisements

    ใครจะคิดว่าพืชที่อยู่ในป่ากับมาสร้างรายได้ กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีคนรู้จักไปทั่ว อย่างเจ้า  ผักหวานป่า ของ “คุณกวินตา เจริญทรัพย์” สาวน้อนรุ่นที่ 2 ของครอบครัวเจริญทรัพย์ แห่ง “เศรษฐีสวนผักหวานป่า เจริญทรัพย์” ที่สืบทอดกิจการของครอบครัว สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
    ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกผักหวานป่ากว่า 10 ไร่ มีสมาชิกเครือข่าย 10 ท่าน ส่งผักหวานป่าไปที่ ตลาดสี่มุมเมืองเฉลี่ยวันละ 400 กิโล – 2 ตัน สร้างรายได้วันละหมื่นอย่างสบายๆ  แต่การจะมีรายได้ระดับนี้ คงต้องมีการเรียนรู้ และเอาใจใส่  ถ้าเช่นนั้น … เราไปเริ่มกันเลยครับ…

 ธุรกิจ ผักหวานป่า เศรษฐีน้อยแห่งสระบุรี สร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อวัน

วิธีการปลูกผักหวานป่า
1.ต้องเริ่มด้วยการปลูกต้นมะขามเทศเพื่อให้ร่มเงา เพราะผักหวานป่าไม่ชอบแสงแดด  โดยการปลูกต้นมะขามเทศให้เว้นระยะห่างแถวประมาณ 3 เมตร เพื่อจะปลูกผักหวานป่าไว้ตรงกลางต่อไป
2.หลังจากให้เอาพันธุ์ผักหวานป่ามาลงปลูก ระหว่างแถว โดยขุดดินลงไปประมาณ 1 หน้าจอบ( 20cm*20cm*ลึก10cm) นำทำการกลบดิน
3.จากนั้นให้ทำการครอบเข่ง (เป็นเข่งปากขนาด 30 เซนติเมตร)(การครอบเข่งจะช่วยเรื่องร่มเงาอีกชั้นหนึ่ง)(เข่งจะนำออกได้ก็ต่อเมื่อ 1 ปี ไปแล้ว จึงจะเอาออกได้ ต้นเริ่มแข็งแรง)
4.แล้วนำไม่ไผ่สั้นๆ ขนาด 30-40 เซนติเมตร มาปักผ่านเข่งลงไปในดิน เพื่อทำการยึดเข่งไม่ให้ขยับไปมาได้ ไม่เช่นจะมีอันตรายต่อต้นอ่อนผักหวานป่าได้
5.ให้น้ำ 3 วันให้น้ำครั้งหนึ่ง
6.หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว จะให้น้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
7.พอเริ่มเข้าเดือนที่ 7 ให้ใส่ปุ๋ยมูลวัว โดยให้รอยรอบต้น ไม่แนะนำให้ใส่ปุ๋ยมูลไก่ เพราะอาจทำให้ต้นเน่าได้
8.พอต้นผักหวานป่ามีอายุครบ 2 ปี ก็เริ่มให้เป็น 2 สัปดาห์ 1 ครั้ง
9.ผักหวานป่าที่ปลูกจากต้นเพาะเมล็ด หรือที่เรียกว่า เบี้ย จะเริ่มเก็บผลผลิตได้ เมื่ออายุ 2-3 ปี
10.เมื่อได้อายุ 2 ปี แล้วต้องเริ่มทำการตัดแต่งกิ่งรูดใบออก เพื่อไม่ให้ผักหวานป่ามีแต่ใบ ทำเช่นนี้ ก็เพื่อบังคับให้ออกยอกอ่อน ซึ่งส่วนที่เราจะนำส่งขายนั้นเอง

 ธุรกิจ ผักหวานป่า เศรษฐีน้อยแห่งสระบุรี สร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อวัน

เทคนิคการกระตุ้นผักหวานป่าให้ออกยอดอ่อนตามต้องการ
1.ให้ตัดแต่งกิ่งล่วงหน้าไว้ก่อน 30 วัน ก่อนกำหนดเก็บเกี่ยว
2.การรูดให้ รูดตลอก้าน โดยเฉพาะใบใหญ่ เขียวเข้ม เหลือโดยเฉลี่ยประมาณ 50 %
3.ต้องให้น้ำสม่ำเสมอตามระยะที่กำหนด
4.ให้ฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นยอดผักหวาน ดังนี้
    -ฮอร์โมน 18 ช้อนแกง
    -นงผง 10 ช้องแกง
    -เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด
    -น้ำสะอาด 200 ลิตร
    -ในฤดูฝน ต้นผักหวานเป็น “ใบลาย” ให้ผสมสารป้องกันเชื้อราลงไปด้วย

ธุรกิจ ผักหวานป่า เศรษฐีน้อยแห่งสระบุรี สร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อวัน

การเก็บยอดผักหวานป่า
    -ต้องหักแบบสุดก้าน ไม่ให้เหลือต่อเลย เพื่อให้ได้มียอดขึ้นได้ง่าย
    -ขนาดที่จะเก็บ ก็ขึ้นอยู่ความยาวของยอดอ่อน ตามที่ตลาดต้องการ โดยปกติมี 3 ขนาดความยาว
    -ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม
    -ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม
    -ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ราคา 100 บาทต่อกิโลกรัม
    -ซึ่งจะมีรสชาติต่างกัน ยอดเล็กจะหวาน ยอดใหญ่จะกรอบ ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบรับประทานของแต่ละคน
    -ในช่วงแรกที่เริ่มเก็บยอดได้ จะเก็บได้ที่ 3 วัน เก็บได้ 1 เที่ยว แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนจะเก็บได้ทุกวัน เพราะว่าในหนึ่งต้นจะแตกตั้งแต่ด้านล่างมาถึงด้านบนเลย
    -ใน 1 ไร่ สามารถเก็บประมาณ 40 – 100 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วย

ผลตอบแทนของผักหวานป่าในพื้นที่ต่อ 1 ไร่ (กำหนดที่เก็บ 3 วัน/ครั้ง)
    -จะให้ผลผลิตที่ประมาณ 100 กิโลกรัม
    -ราคา 40 – 200 บาท/กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับราคาตลาดในช่วงนั้นๆ(เป็นราคาส่ง)
    -รายได้โดยเฉลี่ย 2,000 – 4,000 บาท/ 3 วัน
    -ฤดูหนาวราคาจะแพง แต่เริ่มเข้าหน้าร้อนราคาจะถูกลงมา





Advertisements

การลงทุนปลูกผักหวานป่า 1 ไร่ (จำนวน 400 ถึง 600 ต้น ) เงินลงทุนอยู่ที่
    1.กรณีปลูกเอง 35,000 บาท
    2,กรณีจ้างสวนปลูก 50,000 บาท

ผักหวานป่าที่มาใช้ปลูกมีอยู่ 2 สายพันธุ์
    1.ผักหวานป่าพันธุ์ใบกลม  ก้านใหญ่ ใบกลมเขียว น้ำหนักดี แต่ตลาดต้องการน้อยกว่าใบรี
    2.ผักหวานป่าพันธุ์ใบรี มีลักษณะสีออกเหลืองนิดๆ ออกสีทอง สวย เป็นที่ต้องการของตลาด แต่น้ำหนักน้อย

ตลาดของผักหวานป่า
    ก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าต้องการขายแบบหลีก หรือ ขายส่ง หากเป็นการขายปลีกก็สามารถนำไปขายตามตลาดนัด ตลาดชุมชน หากขายส่งสามารถไปติดต่อที่ร้านค้าในตลาดสี่มุมเมืองได้เลย ราคาจะถูกกว่าขายปลีก

จุดเด่นของ ผักหวานป่า
-เริ่มเป็นที่นิคมของผู้บริโภคมากขึ้นเลยๆ
-เพราะเป็นพืชที่ปลอดสาร หากปลูกแบบใช้สารเคมี ต้นจะตาย
-นำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง  ทั้งประเภทยำ แกงกะทิผักหวาน ส้มตำผักหวานป่า ผักหวานป่าผัดน้ำมันหอย หรือไม่ก็ไปทำสมุนไพร  และอื่นๆ อีกมากมาย

    จะเห็นได้ว่าการทำเกษตร หากทำให้ลึกซึ้งและศึกษาอย่างจริงจัง กับการเลือกพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคต มีตลาดรองรับ มีความต้องการบริโภคมาก ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนได้เช่นกัน

เขียนโดย อาซาดะ ริวอิจิ
ลิขสิทธิ์โดย อาซาดะ ริวอิจิ
ทำเลขายของ.com

ข้อมูลธุรกิจ
สวนผักหวานป่าเจริญทรัพย์
087-116-2338

Leave a comment

E-mail ของคุณจะไม่แสดงขึ้นมาก.


*

กรอกเป็นตัวเลข * Time limit is exhausted. Please reload the CAPTCHA.