“ 5 หมื่น สุดท้าย ” กับรีสอร์ท 93 ตรว. ที่ เขาใหญ่ [ ตอนนี้มีคนมาให้ 15 ล้าน ]

Posted on พฤศจิกายน 23, 2015 by administrator in ธุรกิจ SME น่าสนใจ // 0 Comments

“ 5 หมื่น สุดท้าย ” กับรีสอร์ท 93 ตรว. ที่ เขาใหญ่ [ ตอนนี้มีคนมาให้แล้ว 15 ล้าน ]

การลงทุนทำ รีสอร์ท หลายคนคงคิดว่า… “ต้องใช้เงินลงทุนมาก ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่” มันถึงจะทำได้…
แต่หนุ่มโคราช คนนี้ กลับเริ่มต้นด้วย “ธุรกิจเล็กๆ” ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท กับสองมือ และอีก 1 หุ้นส่วนชีวิต

ชีวิตไม่มีคำว่าง่าย…การทำธุรกิจก็เช่นกัน
คุณพงษ์..ต้องใช้ทุกสิ่งที่มี “เพื่อเดิมพัน..กับ บททดสอบชีวิตครั้งนี้”

จากเงินทุน 50,000 บาท แล้วมันกลายเป็น “รีสอร์ท เขาใหญ่” บนเนื้อที่ไม่ถึง 1 งาน ที่มีบ้าน 5 หลัง , ห้องพัก 12 ห้อง , กับร้านอาหาร และ ร้านกาแฟ ได้ยังไง… >>> เราลองไปตามรอยธุรกิจนี้กันครับ<<<

รูป ผิงดาว “รีสอร์ท เขาใหญ่” ณ.ปัจจุบัน…

“ 5 หมื่น สุดท้ายในชีวิต ! ” [ ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ]

“ รีสอร์ท เขาใหญ่ ” บนเนื้อที่ 93 ตารางวา , มีจุดเริ่มต้นที่มาจาก…ผู้ชายที่มีชื่อว่า “สมพงษ์ กันทรสุรพล” (คุณพงษฺ์) คุณพงษ์เกิดจากครอบครัวคนจีนในอำเภอปากช่อง จัดว่าพอมีฐานะดีเลยทีเดียว “แต่ความไม่แน่นอน คือ…ความแน่นอน”

คุณสมพงษ์…เล่าว่า มีช่วงหนึ่ง คุณพ่อนำเงินไปซื้อที่ดินแถวม่วงเหล็ก เป็นที่ดินที่ต่ำกว่าถนนมาก ซื้อแล้วต้องถมดินอีกเยอะ จำได้ว่า…ช่วงนั้นมีเงินในบัญชีกว่า 4 ล้านบาท , การลงทุนครั้งเล่นเกือบหมดหน้าตัก

แถมคุณแม่ยังมาป่วยอีก จึงต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้รักษาคุณแม่ด้วย จากเด็กที่พอมีกันมีใช้ ต้องไปทำงานขายกล้วยแขกทอด ในปั๊มน้ำมันขายญาติฝ่ายพ่อ ซึ่งรายได้นับว่าดีทีเดียว “ถ้าคิดจาก…กล้วย 1 หวี ที่ซื้อมา 35 บาท , สามารถขายได้ราว 135 บาท” ในวันๆหนึ่งจึงมีกำไรหลักพัน พอเลี้ยงตนกับแฟนได้เลย

แต่สุดท้าย…ก็ไม่ได้ขายต่อ เพราะขอคืนที่ขาย “เมื่อไม่ให้อยู่…เราก็ไปตายเอาดาบหน้า” “อยู่อย่างมีเกียรติ..ดีกว่าให้เขาเหยียดหยามไปวันๆ” ทั้งที่จริงก็อยากขายอยู่ เพราะแฟนท้องอยู่ 8 เดือน ยังต้องการใช้เงินอีกมาก เงินเก็บก็ไม่มีซักบาท

ร้านกาแฟหลังแรก ด้วยเงิน 50,000 บาท

ไปขายกาแฟ ที่บ้านญาติแฟน

หลังจากนั้น…คุณพ่อให้เงินมาทุน 50,000 บาท(ให้มาแค่นั้น..จากสภาพคล่องทางบ้านที่หมดไปกับการซื้อที่ดิน) คุณสมพงษ์ได้นำเงินไปปลูกร้านกาแฟเล็กๆ (ใน ปี.2548 ) ที่บ้านญาติแฟน ยังไม่ได้มีความคิดว่าจะทำ “ รีสอร์ท เขาใหญ่ ” เหมือนทุกวันนี้ด้วยซ้ำ

การปลูกบ้านกาแฟเล็กๆ ขนาดพื้นที่ 4 เมตร คูณ 4 เมตร ด้วยเงินห้าหมื่นบาท ต้องใช้ช่างที่รู้จักเพื่อเหมาค่าแรงราคาถูก ต้องใช้ความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ที่มาลงแรงทาสี-ตกแต่งให้สวยงาม จนในที่สุดก็สำเร็จ สามารถเปิดขายจนได้

Advertisements

เปิดแล้วใช่ว่าจะขายได้…

ปี. พ.ศ.2548 ตอนนั้นเขาใหญ่ยังไม่บูม… ร้านขายกาแฟเล็กๆ+อาหาร วันหนึ่งๆ จึงขายได้ไม่กี่บาท ไม่พอค่าใช้จ่าย คุณสมพงษ์ ต้องไปทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานเก็บขยะ ที่เทศบาลบัวศรีกว่า 1 ปี มีรายได้เดือนละ 5,800 บาท เพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว

ความคิดที่จะทำ “ รีสอร์ท เขาใหญ่ ” เกิดได้เพราะคนขับรถตู้

ในช่วงที่ขายกาแฟ มักจะมีแต่คนมาถามหาที่พัก คุณสมพงษ์…กล่าวว่า ช่วงนั้น…เขาใหญ่มีที่พักไม่มาก น่าจะมีหลัก 10 ห้องเท่านั้นเอง ซึ่งคนที่ถามหาที่พัก…ก็คือ “คนขับรถตู้”

คนที่ขับรถตู้เขาต้องการที่พักราคาถูกกว่าที่จะไปพักตามโรงแรม ซึ่งเวลาที่เขาไปส่งนักท่องเที่ยวที่โรงแรมเสร็จแล้ว ก็จะหาที่พักที่ราคาถูกหน่อย…

ทำให้…คุณพงษ์กับแฟน คิดทำห้องพักหลังแรกขึ้นมา…

บ้านพักหลังแรก ผิงดาว “รีสอร์ท เขาใหญ่“

หัองหลังแรก ผิงดาว “ รีสอร์ท เขาใหญ่ ”

“เงินก็ไม่ค่อยมี ขายก็ไม่ค่อยดี” คุณพงษ์ต้องนำข้าวของไปจำนำ ใช้อุปกรณ์ต่างๆที่มี มาเป็นเฟอร์นิเจอร์ ด้วยบ้านหลังแรก เป็นขนาดเล็กๆชั้นเดียว กว้าง 4 เมตร x 5 เมตร เห็นจะได้ ใช้เงินลงทุนไป 80,000 บาท สร้างเสร็จประมาณปี 2549

เปิดให้พัก…ในราคา 750 บาท/คืน ซึ่งเต็มทุกวัน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจรีสอร์ท แสงที่ปลายอุโมงค์เริ่มสว่างจ้า.. เห็นถึงโอกาสที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง..

คุณพงษ์..เขียนความฝัน ในเศษกระดาษ “ตรงไหนจะเป็นอะไรบ้าง”

“ รีสอร์ท เขาใหญ่ ” เนื้อที่ 93 ตารางวา กับบ้าน 5 หลัง ที่มี 12 ห้องพัก

    จากห้องพักหลังแรก…ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ความคิด..วาดโครงการเล็กๆ บนเนื้อที่ 93 ตารางวา จึงเริ่มต้นขึ้น… โดยใช้เวลากว่า 6 ปี ถึงจะลุล่วง กับหลักการที่ว่า…
   “ไม่กู้เงินใคร…เพราะไม่มีวันใช้หนี้บุณคุณเขาหมด”
    “เก็บทุนจากรายได้…ใช้ข้าวของที่มีให้เกิดประโยชน์ที่สุด”

ปี.พ.ศ.2549 เริ่มก่อสร้างบ้านพักผิงดาว (หลังที่.1) ด้วยเงินทุน 80,000 บาท , ได้ 1 ห้องพัก , เมื่อสร้างเสร็จ เปิดให้พักก็มีจองเต็มทุกคืน

ต่อหลังที่.2 ด้านซ้ายมือ บ้านรัมภา(ชื่อคุณแม่)

ปี.พ.ศ.2550 เริ่มก่อสร้างบ้านพักรัมภา (หลังที่.2) ใช้เงินลงทุน 200,000 บาท,ได้บ้าน 2 ชั้น , 2 ห้อง ขนาด 5×4 เมตร , พอสร้างเสร็จ ก็มีคนมาพักเต็มอีกทุกคืน..

ปี.พ.ศ.2551 เริ่มสร้างบ้านพักจันทร์แดง (หลังที่.3) ใช้เงินลงทุน 600,000 บาท,ได้บ้าน 2 ชั้น , 2 ห้อง ขนาด 5×6 เมตร , เมื่อสร้างเสร็จก็มีคนมาพักเต็มอีก

ปี.พ.ศ.2552 เริ่มก่อสร้างบ้านพัก จิวและจันทร์แดงในรูปแบบใหม่ (หลังที่.4) ใช้เงินลงทุน 1,400,000 บาท พื้นที่ใช้สอยประมาณ 135 ตารางเมตร(รวมสองชั้น) โดยชั้นบนเป็นห้องพัก 3 ห้อง , ส่วนชั้นล่างเป็นร้านอาหารและที่พักของครวบครับคุณพงษ์ ซึ่งกันห้องเล็กๆไว้ส่วนหนึ่ง

ปี.พ.ศ.2555 ปรับปรุงร้านกาแฟเป็นบ้านพักอีกหนึ่งหลัง ( เป็นหลังที่ 5 )

ต่อมาใน..ปี.พ.ศ.2556 กลับมาปรับ ให้เป็นบ้านผิงดาว (หลังที่.1) ให้เป็น 4 ห้อง , 2 ชั้น คราวนี้หมดไปประมาณ 1.2 ล้าน

เบ็ดเสร็จ…ใช้เวลาเกือบ 8 ปี ทุกอย่างที่คิดไว้..ก็เสร็จสมบูรณ์ คุณพงษ์บอกว่า.. “ตอนนี้ ผมหยุดสร้างแล้วครับ แต่ยังไม่หยุดทำนะครับ” คุณพงษ์ยังทำงานดูแลรีสอร์ทเล็กๆ ในฝันกับแฟนกันสองคน…

red & moon หลังที่สาม ตรงกลางภาพครับ

รายได้..พออยู่ได้ แต่โคตร..ภูมิใจ

ช่วงหน้า hi-season หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีคนพักตลอด วันธรรมดาก็จะน้อยลงไปบ้าง ซึ่งรายได้ตั้งแต่ 5,000 – 10,000 บาท/วัน แล้วแต่ช่วง เป็นรายได้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย “ถึงมันจะไม่รวยที่สุด แต่ผมภูมิใจสุดๆ” เฮ้ย.. เราก็ทำได้เหมือนกัน…

ผลพลอยได้จากการลงทุนในที่ดิน

บ้าวผิงดาว “ รีสอร์ท เขาใหญ่ ” ที่ได้เริ่มทำกันมานั้น คุณพงษ์กับแฟน ได้ทำในที่ดินของญาติแฟนคุณพงษ์ ต่อมาประมาณปี 2553 , ได้ซื้อมาเป็นชื่อของภรรยา ด้วยเงินสะสมจากการทำธุรกิจรีสอร์ท

ราวปี.พ.ศ.2555 ได้มีนักลงทุน จากทางภาคใต้มาขอซื้อทั้งโครงการ ในราคา 15 ล้านบาท , แต่ทั้งคุณพงษ์และภรรยายังไม่อยากขาย เกือบจะตัดสินใจขายไปแล้ว…แต่ใจยังคงรัก จึงตัดใจลำบาก

นับเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ที่ผ่านไป…ไม่เพียงมีรายได้จากกิจการ ยังมีกำไร…จากราคาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง…

Leave a comment ยกเลิกการตอบ